ผมเชื่อว่า ทุกคนที่มีเว็บไชต์ ก็ย่อมที่จะอยากให้เว็บไชต์ของตัวเองนั้น ติดอันดับใน Google ในอันดับต้น ๆ (ยกเว้นบางกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ไม่สนเรื่องนี้) และต่างก็คิดว่า พอมีเว็บไชต์แล้ว ก็จะได้ยอดขาย หรือมีคนเข้ามาดูเว็บทันที
ผมเชื่อว่า ทุกคนที่มีเว็บไชต์ ก็ย่อมที่จะอยากให้เว็บไชต์ของตัวเองนั้น ติดอันดับใน Google ในอันดับต้น ๆ (ยกเว้นบางกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ไม่สนเรื่องนี้) และต่างก็คิดว่า พอมีเว็บไชต์แล้ว ก็จะได้ยอดขาย หรือมีคนเข้ามาดูเว็บทันที
แต่ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว จะพบว่า มันไม่เป็นแบบนั้น.... หลายเว็บไชต์สร้างมา มีคนเข้าแค่หลักสิบ หรือบางเว็บไม่มีคนเข้าเลยก็มี บางคนพอเกิดปัญหาก็พยายามศึกษา หาทางทำให้ติดอันดับ แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ.... บางคนลงทุนจ้างผู้เชื่ยวชาญมาทำ แต่แล้วก็ไม่ได้ดั่งใจ.... จนทำให้มีคนบางกลุ่มเกิดความคิดเชิงลบในการทำตลาดออนไลน์ขึ้นมา
จริง ๆ แล้ว การจะทำให้เว็บไชต์ติดอันดับ Google นั้น ถ้าเรามองจากตัวเองเป็นหลัก ผมฟันธงได้เลยว่า โอกาสที่คุณจะทำเว็บไชต์ติดอันดับของ Google ในอันดับต้น ๆ หรือ หน้าแรก ได้ยากมาก ๆ ครับ
สิ่งแรกที่เราควรทำในการวางแผนให้เว็บไซต์ติดอันดับสูง ๆ นั้น ก็คือ เราต้องเข้าใจ Google ก่อนครับ วัตถุประสงค์ในการโชว์ผลลัพธ์การค้นหาของ Google คือ การแสดงผลการค้นหาให้ตรงกับ ความต้องการของผู้ที่ค้นหา มากที่สุด และนี่คือสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่ได้คิดนั่นเอง
มาถึงตรงนี้ ถ้าคุณเอาใจ Google มาใส่ใจคุณแล้ว คุณเริ่มจะเข้าใจหรือยังครับ? ว่าทำไมเว็บไชต์ถึงไม่ติดอันดับ Google....
ทีนี้ คำถามต่อมา คือ แล้วเราจะทำยังไงต่อล่ะ? เราจะทำยังไงให้เว็บไซต์ของเราสอดคล้องกับความต้องการของ Google ได้
เพื่อตอบคำถามข้างต้น ผมได้สรุปเป็นหลักการพื้นฐานในการสร้าง Content หรือ เนื้อหาของเว็บไชต์ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของเรานั้น สอดคล้องกับความต้องการของ Google ได้ครับ การทำเช่นนี้ ภาษาการตลาด เราเรียกว่า SEO หรือ Search Engine Optimazation นั้นเองครับ
การทำ SEO นั้น จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
สำหรับบทความนี้ ผมจะเน้นแค่ในส่วนของ OnPage SEO เท่านั้น และจะอธิบายหลักการสำคัญ ที่ส่งผลต่อ SEO มากกว่า 80% ให้ครับ
ถ้าทำตามหลักการนี้ เว็บไซต์ของคุณ จะมีโอกาสติดอันดับสูงมาก โดยที่ยังไม่ต้องทำอะไรเกี่ยวกับโค้ด หรือ OffPage SEO เพิ่มเติมครับ
ทุกครั้งที่ทำเว็บไซต์ หรือ เขียนบทความลงเว็บ เราจะต้องทำ 2 ข้อนี้ เป็นอย่างน้อยครับ คือ
ยกตัวอย่างเช่น เราขายยายี่ห้อ "ยาเทวดา" ถ้าเราไม่ทำ Keyword Research เราจะทำเนื้อหาเกี่ยวกับคำว่า ยาเทวดา เป็นหลัก แต่ถ้าเราทำการค้นคว้า เราพบว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้ค้นหาคำว่า ยาเทวดา เลย แต่เขาค้นคำว่า ยาแก้ปวดเมื่อย ซึ่งเป็นคุณสมบัติของยาเราแทน...
ด้วยตัวอย่างนี้ พอจะเห็นภาพหรือยังครับว่า Content ที่ควรเขียน เราควรจะเขียนแบบไหน?...
มาถึงตรงนี้ คาดว่า ผู้อ่านคงจะถามแล้วว่า เราจะทำ Keyword Research ยังไง?
ผมแนะนำให้ใช้ที่นี่ครับ Google Keyword Planner ซึ่งจะสามารถค้นคว้า Keyword ได้ ดูตัวอย่างจากรูปข้างล่างได้ครับ
โดยการจะใช้ Tool นี้ได้จะต้องสมัคร Google Ads ก่อน ซึ่งสามารถสมัครใช้ได้ฟรี ครับ แนะนำให้ไปลองใช้เล่น ๆ ดูนะครับ
สุดท้ายนี้ ผมยืนยันเลยว่า ทำแค่ 2 ข้อนี้ ก็จะสามารถติดอันดับสูง ๆ ใน Google ได้แล้ว ถ้า Keyword ที่เลือก ไม่มีคู่แข่งมาก นะครับ ในกรณีที่เราเลือก Keyword ที่มีคู่แข่งมาก เราจะต้องทำอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง โดยผมจะทำเป็นบทความย่อยอธิบายถึง ปัจจัยที่ทำให้ติดอันดับ หรือ Google Ranking Factors ในตอนต่อไปครับ
ปล.
บทความนี้เป็นบทความแรกของ Google Rank Factors Series นะครับ เน้นการปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับ SEO ให้ก่อน ตอนต่อไป ผมจะค่อย ๆ เข้าเนื้อหาที่ลึกมากขึ้น
ถ้าท่านใดต้องการคำปรึกษาเบื้องต้นในการทำ SEO ผมยินดีให้คำปรึกษาฟรี ครับ โดยผมจะแนะแนวทางในการทำงานให้ได้จริงครับ ด้วยเครื่องมือฟรีต่าง ๆ
และถ้าถามว่า แล้วจะต่างกับบริการให้คำปรึกษาแบบเสียเงินยังไง? ความต่างคือ ถ้าใช้บริการที่ปรึกษากับผม ทางผมจะมีข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึก ทำให้สามารถกำหนดรูปแบบ Content แบบเจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า ทำให้เห็นผลมากกว่า เร็วกว่า และประหยัดกว่า ครับ
ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ และ Website developer โดยใช้ WordPress เป็นพื้นฐาน เน้นให้คำปรึกษาด้านการตลาดโดยใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐาน และการทำ Micro/Personalized marketing